ทำไม ? การเห็นลูกเรียนภาษาถึงสำคัญ

ทำไม ? การเห็นลูกเรียนภาษาถึงสำคัญ

ทำไม ? การเห็นลูกเรียนภาษาถึงสำคัญ

ในปัจจุบันการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษมีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ห้องเรียนตามโรงเรียนปกติ โรงเรียนกวดวิชา ติวเตอร์ตามบ้านหรือแม้กระทั้งการเรียนทางออนไลน์ แต่คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตมั้ยคะว่า หลังจากที่ได้สมัครเรียนและเริ่มเรียนไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่เห็นพัฒนาการ รวมถึงความต้องการของลูกได้ชัดเจนแค่ไหน หรือแม้แต่สังคมหรือสภาพแวดล้อมที่ลูกอยู่นั้นมีคุณภาพตามที่หวังไว้แค่ไหน หากไม่สังเกตให้ดีอาจทำคุณพ่อคุณแม่ต้องมาเสียดายภายหลังได้ เพราะเวลาของลูก ๆ ที่ใช้ไปอย่างเสียเปล่าหากเรียนหลายปีหลายคอร์สแต่ไม่สามารถพูดได้หรือ ทำได้เพียงตอบข้อสอบได้ดีเท่านั้น เวลาแห่งความพยายามเหล่านั้นไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขได้จริงมั้ยค่ะ

ดังนั้นวันนี้เรามาดูเหตุผลที่คุณพ่อคุณแม่ควรเห็นลูกขณะเรียนภาษาอังกฤษว่าจะมีเหตุผลอะไรบ้าง ด้านล่างเลยค่ะ

เห็นพัฒนาการของลูก “กับตา”

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านใช้วิธีดูพัฒนาการของลูกจากผลการเรียน ซึ่งนั่นอาจจะไม่เพียงพอ น้อง ๆ บางคนอาจได้เกรดเฉลี่ยวิชาภาษาอังกฤษดีเยี่ยม แต่พออยู่นอกห้องเรียนดันไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรได้เห็นถึงความสามารถของลูกที่ได้แสดงออกในห้องเรียน เช่น น้อง ๆ พูดกับคุณครูมากน้อยถูกต้องตามหลักไวยากรณ์แค่ไหน มีความกล้าแสดงออก กระตือรือร้นในห้องเรียนหรือไม่ ซึ่งทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งที่ถูกวัดด้วยเกรดเฉลี่ยได้ยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณพ่อคุณแม่ควรจับจ้องดูการเรียนของลูกตลอดทุกวัน แต่หากเป็นไปได้อย่างน้อยเดือนละ 1-3 ครั้งที่ได้สังเกตดูลูกจองเรา ก็จะทำให้เห็นพัฒนาการที่ต่อเนื่องของน้อง ๆ ได้ชัดเจนกับตาตัวเอง

เห็นความต้องการของลูก “อย่างแท้จริง”

การถามน้อง ๆ หลังกลับจากโรงเรียนหรือสังเกตเวลาอยู่ที่บ้าน เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่คุณพ่อคุณแม่จะได้รู้ว่าลูกมีความสุขที่โรงเรียนหรือไม่ ชอบไม่ชอบวิชาไหน หรือมีความถนัดด้านใด แต่การทำแบบนั้นก็มีข้อจำกัดอยู่ เพราะหลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ถามน้อง ๆ ว่าทำอะไรบ้างน้อง ๆ อาจจะไม่อยากตอบ ไม่สนใจในคำถาม หรือตอบผ่าน ๆ เท่านั้น ซึ่งจะทำให้คุณพ่อแม่ได้ข้อมูลที่ผิดพลาด ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการได้เห็นน้อง ๆ ใช้ชีวิตในระหว่างเรียน แต่ต้องระวังไม่ให้การสังเกตของคุณพ่อคุณแม่ กลายเป็นการครอบงำหรือกดดันน้อง ๆ จนเกินไป

เห็นสังคมของลูก “ไว้วางใจได้และมีคุณภาพ”

คุณพ่อคุณแม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองมั้ยคะว่า เรารู้จักสภาพแวดล้อมและสังคมของลูก ๆ ดีแค่ไหน? หลายครั้งที่การเลือกโรงเรียนที่มีชื่อเสียงให้การการันตีคุณภาพของสังคมและสภาพแวดล้อมที่น้อง ๆ ได้เจอ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจได้ว่าน้อง ๆ จะปลอดภัยและจะมีการพัฒนาที่ดีขึ้น จากนั้นใช้วิธีดูเกรดเฉลี่ยของน้อง ๆ หรือสอบถามจากคุณครูผู้สอน ถ้าได้เกรดดีหรือไม่มีคำติจากคุณครูแปลว่าสังคมและสภาพแวดล้อมนั้นดีมีคุณภาพ ซึ่งในความเป็นจริงการดูสังคมและสภาพแวดล้อมของลูก คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเห็นว่าน้อง ๆ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้หรือไม่ ใช้ทักษะสื่อสารกับคนรอบข้างได้ดีแค่ไหน เพื่อน ๆ และคุณครูของลูกเราเป็นอย่างไรมีคุณภาพหรือไม่ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ได้สังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเองจึงจะสามารถไว้วางใจได้อย่างแท้จริง